Nikkei Asia รายงานโดยอ้างบทวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ที่ประเมินว่าไทยมีศักยภาพจะกลายเป็นศูนย์กลางการพนันใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากมาเก๊าและลาสเวกัส เนื่องจากคนไทยมีความนิยมในการพนันสูง ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็กำลังมองหาวิธีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ดีอยู่แล้ว
ความพยายามผลักดันบ่อนเสรีในอดีต
แนวคิดการจัดตั้ง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” (Entertainment Complex) หรือบ่อนเสรี ไม่ใช่นโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย แม้หลายรัฐบาลในอดีตเคยพยายามผลักดัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน
ภายใต้การนำของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยเคยมีการศึกษาประเด็นนี้ และคาดการณ์ว่าอาจผ่านกระบวนการรัฐสภาภายในปี 2568
แนวทางใหม่ของรัฐบาลแพทองธาร
อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทองธาร ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เธอได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” เป็นหนึ่งใน 7 นโยบายหลักที่รัฐบาลจะใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะเน้นการสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแนวใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการจัดคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกในประเทศ
เพียง 4 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568
ข้อกังขาจากนักวิชาการและภาคประชาสังคม
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า ในเอกสาร “70 นโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2566” ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจัดทำขึ้นตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่มีการกล่าวถึงนโยบาย “สถานบันเทิงครบวงจร” ที่มีกาสิโนถูกกฎหมาย การพนันออนไลน์ หรือการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน
มีเพียงนโยบายข้อที่ 54 ซึ่งเน้นการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้ถึง 3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยกล่าวถึงการพัฒนาและสร้างโอกาสจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแลนด์มาร์กที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ไม่ได้ระบุถึงธุรกิจกาสิโนโดยตรง
“ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรีผลักดันแนวทางที่พรรคไม่ได้หาเสียงไว้ อาจเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน” ดร.ชิดตะวันกล่าว พร้อมเสริมว่า แม้จะมีเสียงคัดค้านจากภาคประชาสังคมและนักวิชาการ แต่รัฐบาลอาจยังเดินหน้าต่อ ตามแนวคิดที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เคยกล่าวไว้ว่า “ต้องนำสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ขึ้นมาบนดิน” โดยมีการคาดการณ์ว่าการลงทุนจากต่างชาติอาจสูงถึง 5 แสนล้านบาท และสามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ภายใน 2 ปี
ข้อกังวลเรื่องกฎหมายและความเสี่ยงการฟอกเงิน
ศ.ดร.วิชา มหาคุณ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรดุษฎี คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการ ป.ป.ช. วิเคราะห์ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจเป็น “กระบวนการอำพราง” โดยแทนที่จะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2547 อย่างตรงไปตรงมา กลับใช้แนวทางออกกฎหมายใหม่ที่ซ่อนแนวคิดเรื่องกาสิโนไว้
ศาสตราจารย์พิเศษวิชาเตือนว่า “บ่อนพนัน หรือกาสิโน เป็นช่องทางฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด” ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
Nikkei Asia ยังรายงานว่า อุตสาหกรรมกาสิโนมีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินสูง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่มีผู้ประกอบการชาวอเมริกันลงทุนในฟิลิปปินส์ เนื่องจากต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ และหากพบว่ามีความเสี่ยงด้านอาชญากรรม อาจกระทบต่อใบอนุญาตในประเทศต้นทาง
ในกรณีของสิงคโปร์ รัฐบาลต้องออกกฎหมายหลายฉบับในปี 2023 เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน หลังเกิดคดีฟอกเงินครั้งใหญ่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด